หนังม้วนเดิม! ลิเวอร์พูล แม่นเป้าดับ เชลซี 6-5 ซิวเอฟเอ คัพ สมัยที่ 8

การแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ 2021/22 นัดชิงชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ กรุงลอนดอน เป็นการพบกันของสองทีมดังพรีเมียร์ลีกระหว่าง เชลซี กับ ลิเวอร์พูล และเป็นครั้งที่ 141 สำหรับศึกลูกหนังถ้วยเก่าแก่ที่สุดในโลกรายการนี้

คู่นี้ถือเป็นการรีแมตช์นัดชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเกมดังกล่าวเป็น ลิเวอร์พูล เอาชนะจุดโทษ เชลซี ไปได้อย่างสุดระทึก 11-10 หลังในเวลา 120 นาที เสมอกัน 0-0

วันนี้ โธมัส ทูเคิล กุนซือของ เชลซี ใช้แผน 3-4-3 เมสัน เมาต์, คริสเตียน พูลิซิค และ โรเมลู ลูกากู เป็นสามประสานล่าตาข่าย ด้าน เยอร์เกน คล็อปป์ นายใหญ่ของ ลิเวอร์พูล มาในระบบ 4-3-3 หลุยส์ ดิอาซ, ซาดิโอ มาเน และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นำทัพในแนวรุก

ผลการแข่งขันปรากฏว่า ทั้งสองทีมพยายามเปิดเกมบุกใส่กัน แต่ส่งบอลไปกองก้นตาข่ายอีกฝั่งไม่ได้ แม้กระทั่งต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาทีก็ตาม จบ 120 นาที เสมอกัน 0-0 ต้องยิงจุดโทษตัดสินเพื่อหาผู้ชนะ

ในช่วงดวลเป้า เป็นขุนพลหงส์แดงที่ทำได้ดีกว่า เอาชนะไป 6-5 โดยมีเพียง ซาดิโอ มาเน คนเดียวที่ยิงพลาดไปติดเซฟ เอดูอาร์ เมนดี ส่วนทัพสิงห์บลูส์ เซซาร์ อัซปิลิกูเอตา ยิงชนเสา และ เมสัน เมาต์ ยิงติดเซฟ อลิสซอน เบ็คเกอร์

จากชัยชนะนัดนี้ ทำให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ สมัยที่ 8 ไปครองได้สำเร็จ เป็นดับเบิลแชมป์บอลถ้วย และยังอยู่บนเส้นทางลุ้น 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้ต่อไป อีกทั้งยังส่งผลให้ เชลซี กลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่อกหักในนัดชิงรายการนี้ 3 ปีติดต่อกัน จากการพ่าย อาร์เซนอล 1-2 เมื่อปี 2019/20 และแพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 เมื่อซีซั่นที่แล้ว